เคลมประกันภัยรถยนต์แบบไหน ทำไมถึงต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก เรามาทำความเข้าใจกันได้ที่นี่กันนะครับ
วันนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ สมัครงานนายหน้าขายประกันรถยนต์ จะมาอธิบายสำหรับคนใช้รถคงน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างสำหรับผู้ทำประกันภัยรถยนต์ ซึ่งค่าเสียหายหรือค่า Excess นี้ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว เพราะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท และเงื่อนไขการจ่ายก็ยังแตกต่างกันออกไปอีกด้วย ดังนั้นคนใช้รถจึงต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าค่าเสียหายส่วนนี้ทำไมต้องจ่าย และต้องจ่ายในกรณีเคลมแบบไหนบ้าง
ประเภทของค่าเสียหาย
- ค่าเสียหาย ส่วนแรกแบบสมัครใจ (Deductible) คือ จำนวนเงินที่ระบุชัดเจนว่าผู้ขับขี่ต้องชำระหากมีการเคลมประกันเกิดขึ้น โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1,000 – 5,000 บาท ยิ่งเลือกชำระค่าเสียหายสูงเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลง อย่างไรก็ตามหากต้องการเคลมประกันเมื่อไร ก็ต้องดำเนินการชำระค่าเสียหายตามที่ตกลงไว้ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการซ่อมรถและเคลมประกันได้
- ค่าเสียหาย ส่วนแรก ( Excess) คือ จำนวนเงินที่ต้องชำระเพิ่มเมื่อเคลมประกันชั้น 1 หรือเคลมประกันที่คุ้มครองเต็มจำนวนแต่ไม่มีคู่กรณี เช่น กรณีรถเกิดรอยขีดข่วน ชนเสาไฟฟ้า ต้นไม้ล้มทับ เป็นต้น ซึ่งค่า Excess ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1,000 บาท
ตัวอย่างกรณีอุบัติเหตุที่ต้องชำระค่า Excess ที่สามารถเห็นได้บ่อย ๆ คือ ยางระเบิดเพราะตะปู เศษแก้ว หรือสิ่งมีคมอื่นๆ, ต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์, รอยขีดข่วนบนตัวถังที่เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ, การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถตกท่อระบายน้ำ ก็เข้ากรณีอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีได้เช่นกัน
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าค่าเสียหายส่วนดังกล่าวเป็นแบบสมัครใจนั้นเป็นข้อตกลงที่ผู้ทำประกันยอมจ่ายเพื่อความประหยัด เพราะยิ่งจ่ายสูงก็ยิ่งจ่ายเบี้ยประกันถูกลง หากขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ก็ถือว่าคุ้มค่า ช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี
ส่วนค่า Excess นั้นเป็นค่าเสียหายที่จำเป็นต้องจ่ายอยู่แล้วหากต้องการเคลมเงินประกันเต็มจำนวนหรือเมื่อเกิดกรณีอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีและระบุคู่กรณีไม่ได้ แม้จะต้องเสียเงินก็ถือว่าช่วยผ่อนหนักเป็นเบาและลดภาระรายจ่ายได้บ้าง
สำหรับอัตราค่าเสียหายของบริษัทประกันแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันออกไป รวมถึงเงื่อนไขการจ่าย การเคลม และข้อกำหนดเรื่องการจ่ายค่าเสียหายแบบสมัครใจรวมถึงค่า Excess ดังนั้นก่อนทำประกันภัยรถยนต์สักฉบับจึงต้องศึกษารายละเอียดความคุ้มครองให้ดี นอกจากนี้ต้องไม่ลืมสอบถามเรื่องค่าเสียหายจากบริษัทประกันให้เข้าใจ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ต้องไม่ลืมด้วยว่าในการขับรถนั้นต้องมีสติ ไม่ประมาท และขับรถอย่างระมัดระวังทุกครั้ง เพราะไม่ว่าอย่างไรการไม่เกิดอุบัติเหตุเลยย่อมดีกว่า
นอกจากต้องรอบรู้เรื่องการเคลมประกัน ก็ควรเลือกทำประกันภัยให้เหมาะกับผู้ขับขี่ด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดเมื่อถึงคราวต้องเคลมประกัน และหากกำลังมองหาประกันรถยนต์อย่างครบวงจร หรือสนใจสมัครเป็นตัวแทนนายหน้าขายประกันภัยรถยนต์ ค่าสมัครเพียงแค่ 200 บาท เท่านั้น แต่ว่าคุณสามารถส่งงานขายประกันได้มากกว่า 50 บริษัทชั้นนำทั่วประเทศ ที่สมัครได้ที่นี่เลยครับ : สมัครสมาชิกศรีกรุง