รู้จักกับนายหน้าประกันภัยของศรีกรุงโบรคเกอร์

ประกันภัย คือหนึ่งในเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญมากในปัจจุบัน ทั้งในแง่ของการรองรับเหตุไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น ไปจนถึงการฝึกวินัยทางการเงิน ให้รู้จักใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ในวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับนายหน้าประกันภัยของบริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ กันครับ

ศรีกรุงโบรกเกอร์ คืออะไร
ศรีกรุงโบรคเกอร์ คือ บริษัทนายหน้าประกันภัยนิติบุคคล ชั้นนำอันดับต้นๆ ที่ให้บริการประกันวินาศภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ ประกันเบ็ดเตล็ด ประกันทางทะเล และประกันขนส่ง ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในขั้นตอนการซื้อขายประกัน รวมถึงการควบคุมดูแลคุณภาพและรับผิดชอบลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับในสิ่งที่ตรงต่อความต้องการของตัวเอง อีกทั้งให้คำปรึกษา คำแนะนำ ทั้งผู้ที่สนใจจะทำประกันและผู้เอาประกัน เพื่อส่งต่อความรู้ ความเข้าใจ ว่าประกันภัยนั้นสำคัญขนาดไหน

แล้วทำไมต้องซื้อผ่านนายหน้าประกันภัยของศรีกรุงโบรคเกอร์ ในเมื่อคุณก็สามารถซื้อประกันโดยตรงได้? ความแตกต่างอยู่ตรงที่ว่า การซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าประกันภัยของศรีกรุงโบรคเกอร์ จะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบประกันภัยของแต่ละบริษัทได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุ้มค่าหรือไม่ และอาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อประกันภัยโดยตรงด้วย

ที่สำคัญที่สุดคือ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนต้องพึ่งพาประกัน นายหน้าประกันภัยจะทำงานเป็นตัวกลาง คอยช่วยเหลือลูกค้า ช่วยเดินเรื่องกับบริษัทประกันภัยในกรณีต้องเคลมเงิน เจรจาต่อรองด้านกฎหมายเพื่อที่ผู้เอาประกันจะได้ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง คุณสามารถดูสินค้าและบริการของศรีกรุงทั้งหมดได้ที่นี้ได้เลยครับ https://srikrung-broker.info/iservice/

วันนี้ผม โค้ชวรายุทธ ศรีกรุงโบรคเกอร์ จะมาแนะนำสินค้าบางส่วนของการให้บริการของนายหน้าประกันศรีกรุง เพื่อสอดรับความต้องการของลูกค้าซึ่งก็คือ

1. ประกันรถยนต์
ประเทศไทยมีรถที่จดทะเบียนมากกว่า 38 ล้านคัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่รถติดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนถึงขั้นเสียชีวิตมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย ดังนั้นทุกคนจึงควรคำนึงว่าจริงๆ แล้วเราทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติจากการขับขี่รถบนท้องถนนมากขนาดไหน โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถบนท้องถนนอยู่เป็นประจำทุกวัน การมีประกันรถยนต์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ศรีกรุงก็ได้ให้ความสำคัญกับประกันรถยนต์ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ โดยมีจุดเด่นดังนี้
ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ : ศรีกรุงให้คุณผ่อนเงินสดได้ 6 งวด ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
ไม่มีดอกเบี้ย : สามารถผ่อนได้โดยไม่มีดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
ผ่อนอยู่ ก็เคลมได้ : เคลมประกันได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เริ่มผ่อน และจะจัดส่งสำเนากรมธรรม์ให้ภายใน 30 วัน โดยฉบับจริงจะได้รับหลังผ่อนชำระเสร็จ
ตัวเลือกหลากหลาย : นายหน้าประกันภัยของศรีกรุงมีประกันครบทุกชั้น กว่า 35 บริษัทชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, 2+, 2, 3+, และ 3 เลือกได้ตามความต้องการ
มีสาขาเพียบ : ศรีกรุงมีมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ทันที หรือโทรไปที่ Call Center 02-867-3888 (อัตโนมัติ 30 คู่สาย) เจ้าหน้าที่ศรีกรุงพร้อมรับสาย ให้คำปรึกษา และบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ชำระเงินได้หลายช่องทาง : ไม่ว่าจะเป็นชำระที่สาขาของศรีกรุงทั่วประเทศ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคารกรุงศรี กรุงเทพ และกสิกรไทย ก็สามารถทำได้ รวมถึงมีบริการแจ้งเตือนการชำระเบี้ยประกันผ่าน SMS เพื่อความสะดวกรวดเร็วด้วย
อนึ่ง หากคุณสนใจสมัครเป็นตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ ผมโค้ชวรายุทธ & โค้ชชุลี เปิดรับสมัครตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ สนใจคลิกสมัครตรงนี้ได้เลย : สมัครสมาชิกศรีกรุง หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ไลน์เเอด หรือผ่านกรอกข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อหน้าเว็บไซต์

2. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident Insurance หรือ PA) ใช้สำหรับการประกันภัยเฉพาะบุคคลคนเดียวเท่านั้น โดยบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเกิดความสูญเสียทางร่างกาย (บาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ พิการ เสียชีวิต) จากอุบัติเหตุเท่านั้น หากเกิดจากการเจ็บป่วยเป็นโรคจะไม่ได้รับความคุ้มครอง

กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล จะจ่ายเงินชดเชยให้กับการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ ดังนี้

1. การเสียชีวิต กรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บเป็นเหตุให้เสียชีวิตภายใน 180 วันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกัน โดยเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลและเสียชีวิตเพราะเหตุบาดเจ็บนั้น ผู้รับประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
2. การสูญเสียอวัยวะและสายตา กรณีความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความสูญเสีย ภายใน 180 วันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยจะจ่ายค่าทดแทนให้ ดังนี้

100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียมือสองข้าง ตั้งแต่ข้อมือ หรือเท้าสองข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า หรือสายตาสองข้าง
100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือ และเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า
100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือ และสายตาหนึ่งข้าง
100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า และสายตาหนึ่งข้าง
50% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียมือหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อมือ
50% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียเท้าหนึ่งข้าง ตั้งแต่ข้อเท้าลงไป
50% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียสายตาหนึ่งข้าง โดยที่การสูญเสียสายตาหรือเท้า จากการถูกตัดออก
หรือใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิงถาวร และการสูญเสียสายตา หมายถึง ตาบอดสนิทและไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไป

3. ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร กรณีความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ภายใน 180 วันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรนั้นได้เป็นติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 เดือน ผู้รับประกันภัยจะจ่ายค่าทดแทนให้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
4. ทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราว กรณีอาการบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราวภายใน 180 วันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยจะจ่ายค่าทดแทนให้เป็นระยะ ตลอดเวลาที่ทุพพลภาพอยู่ ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
5. ทุพพลภาพบางส่วนชั่วคราว กรณีความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยทุพพลภาพบางส่วนชั่วคราวภายใน 180 วันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ ผู้รับประกันภัยจะจ่ายค่าทดแทนให้เป็นระยะ ตลอดเวลาที่ทุพพลภาพบางส่วนชั่วคราวอยู่ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
6. การรักษาพยาบาล ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาล ค่าโรงพยาบาล และค่าพยาบาลพิเศษ ตามจำนวนจริงที่เกิดขึ้นภายใน 52 สัปดาห์นับตั้งแต่วันเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

3. ประกันชีวิต
สมาคมประกันชีวิตไทยได้สรุปคำจำกัดความว่า การประกันชีวิต คือ การชดเชยรายได้ที่ต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจากความตาย ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงหรือชราภาพ โดยบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 861 ประกอบกับมาตรา 889 อธิบายความหมายของการประกันชีวิตไว้ว่า หมายถึง “สัญญาซึ่งผู้รับประกันชีวิตตกลงจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้เมื่อมีเหตุในอนาคตดังระบุไว้ในสัญญา กล่าวคือ เมื่อผู้เอาประกันชีวิตหรือผู้ถูกเอาประกันชีวิตมรณะลงภายในเวลาตามที่ตกลงกันไว้ หรือเมื่อผู้นั้นยังทรงชีพอยู่จนถึงเวลาตามที่ได้ตกลงกันไว้ และในการนี้ผู้เอาประกันชีวิตตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันชีวิต”